Hot News :
ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป
ชื่อผู้ใช้: รหัสผ่าน: จดจำข้อมูลการเข้าระบบ

ตอบกลับ: สมรภูมินรกกลางป่าลึกใครคือวีรบุรุษตัวจริง

ชื่อ
อีเมล
เมื่อข้อความได้ถูกตรวจสอบ และนำเสนอต่อสาธารณะ คุณจะได้รับจดหมายส่งไปยังอีีเมลเดียวกับที่ใช้ตอนลงทะเบียนสมัคร
ชื่อกระทู้
Boardcode
B) :( :) :cheer: ;) :P :angry: :unsure: :ohmy: :huh: :dry: :lol: :sick: :silly: :blink: :blush: :oops: :kiss: :woohoo: :side: :S :evil: :whistle: :pinch:
ข้อความ
ขยายขนาดกล่อง /  ลดขนาดกล่อง

รายการย้อนหลังของกระทู้: สมรภูมินรกกลางป่าลึกใครคือวีรบุรุษตัวจริง

แสดงรายการย้อนหลังสูงสุด 6 โพสต์ - (ล่าสุด)
4 สัปดาห์ 3 ชั่วโมง ที่ผ่านมา #73108

Ryoma412

รูปประจำตัวของ

สมรภูมินรกกลางป่าลึกใครคือวีรบุรุษตัวจริง

ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าคุณต้องกระโจนลงไปกลางดงข้าศึกที่มองไม่เห็นตัวในสนามรบที่คุณไม่รู้จักเป็นครั้งแรกในชีวิตความรู้สึกมันจะเป็นยังไงหนังเรื่อง We Were Soldiers (2002) เรียกข้าว่าวีรบุรุษ จะพาคุณดิ่งลงไปสัมผัสประสบการณ์นั้นแบบเต็มๆชนิดที่ว่าลืมหายใจกันไปเลยนี่ไม่ใช่แค่หนังสงครามแอ็คชั่นยิงกันตูมตามเอามันส์แต่มันคือบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตคือเรื่องจริงของสมรภูมินองเลือดครั้งแรกระหว่างทหารอเมริกันกับกองทัพเวียดนามเหนือในหุบเขามรณะที่ชื่อว่าเอียดรังในปี 1962 ที่นี่ไม่มีพระเอกขี่ม้าขาวมีแต่ทหารหนุ่มๆหน้าใสที่บางคนยังไม่เคยแม้แต่จะจูบลาแฟนสาวเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำพวกเขาถูกส่งมายังดินแดนที่ไม่คุ้นเคยเพื่อสู้ในสงครามที่พวกเขาเองก็อาจจะไม่เข้าใจมันทั้งหมดด้วยซ้ำหนังเปิดเรื่องมาไม่ได้พาเราไปยิงกันเลยทันทีแต่จะค่อยๆพาเราไปรู้จักกับหัวใจของกองทัพที่ 7 กองพันทหารม้าที่ 1 นำโดยผู้พันแฮล มัวร์ ชายชาติทหารผู้ยึดมั่นในคำสัญญาเขาบอกกับลูกน้องและภรรยาของพวกเขาทุกคนว่าเขาจะเป็นคนแรกที่เหยียบสมรภูมิและจะเป็นคนสุดท้ายที่ก้าวออกมาและที่สำคัญเขาจะไม่มีวันทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นหรือตายคำสัญญานี้มันไม่ใช่แค่ลมปากแต่มันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทหารทั้ง 400 นายเอาไว้ในขณะที่อีกฟากหนึ่งของโลกบรรดาภรรยาที่นำโดยจูลี่ มัวร์ ภรรยาของผู้พันเองก็ต้องต่อสู้ในสงครามอีกรูปแบบหนึ่งสงครามกับความกลัวความวิตกกังวลและการรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุดภาพที่พวกเธอต้องคอยหลบหน้าบุรุษไปรษณีย์ที่นำโทรเลขมรณะมาส่งมันบีบหัวใจยิ่งกว่าการเห็นทหารยิงกันเสียอีกหนังเรื่องนี้มันสุดยอดตรงที่มันไม่ได้เล่าเรื่องจากฝั่งอเมริกาแค่ฝั่งเดียวแต่ยังพาเราข้ามไปดูมุมมองของทหารเวียดนามเหนือด้วยเราจะได้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ศัตรูไร้หน้าแต่เป็นมนุษย์ที่มีครอบครัวมีความเชื่อมีอุดมการณ์และมีความกล้าหาญไม่แพ้กันพวกเขาสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดของตัวเองด้วยยุทธวิธีที่ชาญฉลาดและจิตใจที่เด็ดเดี่ยวยอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตฉากที่ผู้พันเหงียน ฮู อัน ของเวียดนามมองดูการรบจากมุมสูงวางแผนและสั่งการมันทำให้เรารู้สึกว่านี่คือการต่อสู้ของคนฉลาดกับคนฉลาดของนักรบกับนักรบอย่างแท้จริงและแล้ววันนั้นก็มาถึงเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ลำแล้วลำเล่าขนทหารหนุ่มๆเข้าไปยังลานบินเอ็กซ์เรย์จุดยุทธศาสตร์เล็กๆกลางหุบเขาที่ถูกล้อมไว้ด้วยทหารเวียดนามเหนือนับพันทันทีที่เท้าแรกแตะพื้นเสียงปืนก็ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มแผ่นดินทลายจากนั้นทุกอย่างก็คือความโกลาหลของจริงหนังไม่ได้ปรานีคนดูเลยแม้แต่น้อยกระสุนปลิวว่อนเลือดสาดกระจายเสียงระเบิดดังจนหูอื้อเราจะได้เห็นภาพทหารหนุ่มที่เมื่อเช้ายังหัวเราะกับเพื่อนอยู่เลยตกเย็นกลายเป็นศพนอนจมกองเลือดเราจะได้เห็นมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางห่ากระสุนการเสียสละที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าคำบรรยายฉากที่นักข่าวสงครามโจ แกลโลเวย์ต้องทิ้งกล้องมาจับปืนเพราะสถานการณ์มันเลวร้ายจนไม่มีทางเลือกมันบอกเราว่าในสนามรบไม่มีใครเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ทุกคนคือผู้รอดชีวิตที่ต้องดิ้นรนทุกวินาทีหนังพาเราไปสำรวจความโหดร้ายของสงครามแบบถึงแก่นมันไม่ใช่แค่การสู้รบแต่คือการเอาชีวิตรอดคือบททดสอบความเป็นมนุษย์ที่หนักหนาสาหัสที่สุดคุณจะได้เห็นความกลัวฉายชัดในแววตาของทหารใหม่แต่ในขณะเดียวกันคุณก็จะเห็นความกล้าหาญที่ลุกโชนขึ้นมาเพื่อปกป้องเพื่อนที่อยู่ข้างๆฉากการรบในตอนกลางคืนที่ทหารอเมริกันต้องสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็นมันบีบคั้นหัวใจและน่ากลัวอย่างที่สุดมันคือฝันร้ายบนดินที่ไม่มีวันลืมเลือนแต่ท่ามกลางความโหดร้ายนั้นเองเราก็ได้เห็นแสงแห่งมนุษยธรรมส่องประกายออกมาการที่ผู้พันมัวร์ปฏิเสธที่จะทิ้งทหารที่บาดเจ็บไว้แม้ว่ามันจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตามการที่ทหารยอมเอาตัวเองบังกระสุนให้เพื่อนมันคือสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจคำว่าวีรบุรุษอย่างแท้จริงวีรบุรุษไม่ใช่คนที่ไม่เคยกลัวแต่คือคนที่ก้าวข้ามความกลัวเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องและที่สำคัญหนังเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงต้นทุนของสงครามที่ไม่ได้จ่ายกันแค่ในสนามรบภาพตัดสลับไปยังบ้านที่อเมริกาตอนที่จูลี่ มัวร์และเพื่อนภรรยานายทหารต้องกลั้นใจทำหน้าที่ที่เจ็บปวดที่สุดคือการเป็นตัวแทนกองทัพนำข่าวร้ายไปแจ้งแก่ครอบครัวที่สามีของพวกเธอไม่มีวันได้กลับบ้านอีกแล้วทุกครั้งที่รถแท็กซี่จอดหน้าบ้านหลังไหนหัวใจของคนดูก็แทบจะหยุดเต้นตามไปด้วยมันคือความเจ็บปวดเงียบๆที่กรีดลึกยิ่งกว่าบาดแผลจากกระสุนปืนเสียอีกนี่คือภาพยนตร์สงครามที่ไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิดใครดีใครเลวแต่เป็นการนำเสนอความจริงอันน่าเศร้าว่าสงครามนั้นมันพรากทุกสิ่งไปจากทุกฝ่ายไม่ว่าคุณจะสู้เพื่ออะไรสุดท้ายแล้วทุกคนก็คือผู้สูญเสียเหมือนกันหมดมันคือเรื่องราวของเหล่าชายหนุ่มธรรมดาๆที่ถูกสถานการณ์บีบคั้นให้ต้องทำในสิ่งที่ไม่ธรรมดาพวกเขาไม่ได้สู้เพื่อธงชาติหรืออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่แต่สู้เพื่อเพื่อนที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่สู้เพื่อให้ได้กลับไปเห็นหน้าคนที่รักอีกครั้งหนึ่งถ้าคุณอยากดูหนังที่ให้อะไรมากกว่าความบันเทิงอยากสัมผัสถึงความกล้าหาญความเสียสละมิตรภาพและความเจ็บปวดของสงครามอย่างแท้จริงเรื่องนี้คือคำตอบมันจะทำให้คุณต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่าสันติภาพที่เรามีอยู่นั้นมันมีค่ามากแค่ไหนและเราควรจะทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้อย่างไรเตรียมใจของคุณให้พร้อมแล้วไปร่วมจารึกประวัติศาสตร์ในสมรภูมิเดือดแห่งหุบเขาเอียดรังไปดูว่าทำไมทหารธรรมดาๆเหล่านี้ถึงถูกขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษแล้วคุณจะเข้าใจว่าชัยชนะที่แท้จริงอาจไม่ใช่การฆ่าศัตรูได้มากกว่าแต่คือการรักษาสัญญาที่จะพาทุกคนกลับบ้านให้ได้ต่างหากไม่ว่าจะในสภาพไหนก็ตามนี่คือหนังที่คุณต้องดูสักครั้งในชีวิตเพื่อที่จะเข้าใจคำว่าสงครามได้อย่างถึงแก่นหัวใจที่สุด
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.069 วินาที

ร้องเรียนร้องทุกข์

Map

Poll

ความพึงพอใจของท่าน ต่อการให้บริการของ เทศบาลตำบลช่องเม็ก อำภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในระดับใด ?
  • โหวต: (0%)
  • โหวต: (0%)
  • โหวต: (0%)
  • โหวต: (0%)
  • โหวต: (0%)
Total Votes:
First Vote:
Last Vote:

สารสนเทศ สถ.

หน่วยงาน สถ.

ลิงค์น่าสนใจ